อาร์เซนอล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอฟเอ คัพ ในมิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ที่ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ และเป็นประวัติศาสตร์ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการลืม หลังจากพวกเขาพ่ายแพ้ไป 5-4 ในการดวลลูกโทษ แต่ละฝ่ายยิงฝ่ายละ 5 คน และทุกคนยิงเข้าหมด ยกเว้น พอล สโคลส์ ซึ่งถูกเซฟไว้ได้โดย เยนส์ เลห์มันน์ นายทวารของอาร์เซนอล

มันเป็นผลการแข่งขันที่ขมขื่นต่อแฟนปีศาจแดง ซึ่งเป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด น่าจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะมากที่สุด
รุด ฟาน นิสเตลรอย, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ รอย คีน ทำประตูในการดวลลูกจุดโทษให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะที่ โลร็อง, เฟรดริค ลุงเบิร์ก, โรบิน ฟาน เปอร์ซี่, แอชลี่ย์ โคล และ ปาทริค วิเอร่า ทำประตูให้ อาร์เซนอล ทำให้พวกสวะได้เป็นแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 10
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองเกมไว้ได้หมด แต่พวกเขาใช้โอกาสเปลืองจนเกินไปในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ
เวย์น รูนี่ย์ เป็น ‘แมน ออฟ เดอะ แมตช์’ จากผลงานการเล่นที่สุดสะเด่าในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ครั้งแรกของเขา
3 ผู้เล่นสำคัญพลาดการลงสนาม เธียร์รี่ อองรี ซึ่งมีการถกเถียงกันว่าจะลงหรือไม่ลงเล่น ไม่มีชื่อในทีมอาร์เซนอล แม้กระทั่งตัวสำรอง
รายชื่อ 11 คนแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูดีทีเดียว แม้ว่าไรอัน กิ๊กส์ จะมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง และแกรี่ เนวิลล์ ก็เป็นเพียงตัวสำรองเช่นกัน
นัดชิงเอฟเอ คัพ ครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มันเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 7 ที่เขาพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่เขาครองคู่กับแฟร้งค์ วัตต์ ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิล ที่พาทีมเข้าชิง 6 ครั้ง ระหว่างปี 1905 ถึง 1924
รอย คีน กัปตันทีมปีศาจแดง ลงสนามในนัดชิงเอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 7 แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในยุคปัจจุบัน มีเพียง อาร์เธอร์ คินแนร์ ที่ลงเล่นนัดชิงถึง 9 ครั้งในช่วงทศวรรษ 1800 ที่ลงเล่นมากกว่า
นัดนี้เป็นครั้งที่ 17 ของทั้งสองทีมในนัดชิงชนะเลิศ และเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 ปีของไอ้ปืนใหญ่ใน มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม
ครั้งก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองทีมพบกันในนัดชิงชนะเลิศ คือเมื่อปี 1979 ซึ่งไอ้ปืนใหญ่ขนะไป 3-2 ในนัดที่ได้รับการขนานนามว่า ‘นัดชิง 5 นาที’ เพราะว่า อาร์เซนอล นำไปก่อน 2-0 แต่ถูกตีเสมอได้สำเร็จก่อนหมดเวลา 4 นาทีจาก แซมมี่ แม็คอิลรอย และ กอร์ดอน แม็คควีน ซึ่งเกมนี้ดูเหมือนว่าจะต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ก่อนหมดเวลาเพียงไม่กี่วินาที เลียม บราดี้ โยนบอลจากปีกซ้ายให้ อลัน ซันเดอร์แลนด์ สไลด์เข้าประตูไปในนาทีสุดท้ายให้ไอ้ปืนใหญ่เป็นแชมป์ ความรู้สึกของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเปลี่ยนอย่างกะทันหันในนัดชิงที่น่าผิดหวัง
ในการเจอกันครั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องสวมชุดเยือนสีดำ เขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน โดยได้โอกาสแรกในนาทีที่ 6 เมื่อลีลาเลื้อยลากกระชากสับสยองของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกือบทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน เขาพาบอลจากปีกซ้ายทะลวงผ่าน โลร็อง ก่อนที่จะโยนบอลเข้ากลาง ไม่น่าเชื่อที่ พอล สโคลส์ ไม่มีคนประกบ และลูกโหม่งเหน่งๆ ของเขาลอยข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
กองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่เต็มไปหมดเมื่อ อาร์เซนอล ตั้งเกมบุกขึ้นมาครั้งแรกของเกม แต่ รอย คาร์โรลล์ ออกมานอกเส้นผิดจังหวะ ดูเหมือนจะเป็นโอกาสดีของ อาร์เซนอล แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงมาตั้งโซนรับไว้ได้ทันเวลา
แอชลี่ย์ โคล กองหลังทีมชาติอังกฤษได้รับใบเหลืองจากการหวด เวย์น รูนี่ย์ ล้มคว่ำในนาทีที่ 18
หลังจากนั้น มิเกล ซิลแวสตร์ ก็ได้รับใบเหลืองตามหลัง โคล มาติดๆ ในไม่กี่นาทีให้หลัง หลังจากเขาเข้าสกัดอย่างแรงใส่ เดนนิส เบิร์กแคมป์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสดีอีกครั้งในช่วงครึ่งชั่วโมงของเกมผ่านไป ริโอ เฟอร์ดินานด์ น่าจะทำประตูแรกของเขาให้กับทีม และทำให้ทีมขึ้นนำ หลังจาก เยนส์ เลห์มันน์ เซฟลูกยิงของ รูนี่ย์ ไม่อยู่ และถูกเข้าซ้ำโดย ริโอ นักเตะปีศาจแดงเตรียมฉลองการยิงประตูนี้แล้ว แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวัง เมื่อ ร็อบ สไตลส์ และคณะผู้ช่วยผู้ตัดสินปฏิเสธประตูนี้ว่าเป็นลูกล้ำหน้า ทั้งๆ ที่ ริโอ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแต่อย่างใด
เลห์มันน์ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้งหลังจากนั้นไม่กี่นาที เมื่อ รูนี่ย์ ยิงบอลพุ่งเกือบจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ เลห์มันน์ เหินปัดข้ามคานไปได้
รูนี่ย์ ได้โอกาสวอลเลย์เต็มเท้าจากนอกกรอบเขตโทษไม่กี่หลาใส่ เลห์มันน์ จากการเปิดลูกเตะมุมของ สโคลส์ จากฝั่งขวา แต่ลูกข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก สกอร์อยู่ที่ 0-0 โดยเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ริโอ เฟอร์ดินานด์ พาบอลเข้าไปในแดนของ อาร์เซนอล ในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่กองหลัง อาร์เซนอล หยุดการบุกไว้ได้ บอลสุดท้ายของเขาไม่ดีนัก แต่การลุยเข้าไปของเขาทำให้แฟนบอลปีศาจแดงนั่งไม่ติด
ลูกยิงของ โรนัลโด้ พุ่งผ่านเสาฝั่งซ้ายของ เลห์มันน์ ออกไปในนาทีที่ 51 โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงทำได้ดีกว่าในช่วงต้นครึ่งหลัง
ในครึ่งหลัง รูปแบบการเล่นเป็นแบบบุกและสวนกลับกันไปมา โดยทั้งสองทีมมีโอกาสยิงทั้งคู่ รูนี่ย์ และ โรนัลโด้ อยู่ในฟอร์มการเล่นที่สุดยอด ในขณะที่ อาร์เซนอล ขาด อองรี แต่ เบิร์กแคมป์ ก็เป็นผู้เล่นที่ยังอันตรายเสมอสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในนาทีที่ 65 ไอซ์เบิร์กถูกแทนที่โดย เฟรดริค ลุงเบิร์ก
โลร็อง ซึ่งต้องปวดหัวงุนงงสงสัยกับลีลาเลื้อยลากกระชากสับสยองของ โรนัลโด้ ต้องได้รับใบเหลืองไปอีกคน หลังจากหวดปีกโปรตุกีสล้มคว่ำคะมำจูบพื้น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเล่นได้ดีกว่า และในนาทีที่ 67 รูนี่ย์ เกือบจะทำให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อเขายิงอัดอย่างแรง แต่บอลพุ่งชนโคนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงบุกกดดันอย่างหนักในช่วงท้ายของเวลาปกติ และการบุกอันยอดเยี่ยมทำให้ อาร์เซนอล ต้องสกัดบอลออกจากเส้นถึง 2 ครั้ง ลุงเบิร์ก เป็นผู้ช่วยชีวิตให้กับไอ้ปืนใหญ่จากลูกโหม่งของรุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งน่าจะเป็นประตูอย่างที่สุด
ครึ่งหลังเริ่มต้นเล่นกันอย่างสูสี แต่เกมก็ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในที่สุด โดยปีศาจแดงทำได้ทุกอย่างยกเว้นการทำให้บอลเข้าไปตุงตาข่าย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัว ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ออกให้ ไรอัน กิ๊กส์ ลงไปแทนในช่วงต้นของช่วงต่อเวลาพิเศษ ปีกชาวเวลส์ลงไปเล่นทางฝั่งซ้าย
คาร์โรลล์ ทำได้ดีในนาทีที่ 8 ของช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อเขาเซฟลูกฟรีคิกของ โรบิน ฟาน เปอร์ซี่ ไว้ได้ โดยเป็นโอกาสดีที่สุดครั้งเดียวของ อาร์เซนอล
เลห์มันน์ ช่วยชีวิต อาร์เซนอล ในนาทีที่ 103 เมื่อเขาป้องกันลูกยิงของ สโคลส์ ไว้ได้
รุด ฟาน นิสเตลรอย ไม่สามารถเข้าถึงบอลที่โยนมาโดย โรนัลโด้ ในช่วงต้นครึ่งหลังของช่วงเวลาพิเศษ
เกมยังคงน่าตื่นเต้นจนจบช่วงต่อเวลาพิเศษ นักเตะทั้งสองทีมไม่ได้แสดงความเหน็ดเหนื่อยออกมาในช่วงตัดสินเกมด้วยการยิงลูกจุดโทษ ในท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นผลการแข่งขันที่โหดร้ายสำหรับปีศาจแดง ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ครั้งแรกที่ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ โดย อาร์เซนอล ชนะในการดวลจุดโทษไป 5-4 (บรรยายเกมโดย RRR งุงิ Gang)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล
เยนส์ เลห์มันน์ 1
แอชลี่ย์ โคล 3 ( น. 17)
โลร็อง เอตาเม่ 12 ( น. 62)
ฟิลิปเป้ เซนเดอรอส 20
โคโล่ ตูเร่ 28
ฟร็องเชส ฟาเบรกาส 15
โรแบร์ ปิแรส 7
จิลแบร์โต้ ซิลวา 19
ปาทริค วิเอร่า 4 ( น. 118)
เดนนิส เบิร์กแคมป์ 10
โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส 9 ( น. 76)( น. 120)
สำรอง
มานูเอล อัลมูเนีย 24
โซล แคมป์เบลล์ 23
เอดู 17 น. 105 โรแบร์ ปิแรส 7
เฟรดริค ลุงเบิร์ก 8 น. 65 เดนนิส เบิร์กแคมป์ 10
โรบิน ฟาน เปอร์ซี่ 11 น. 86 ฟร็องเชส ฟาเบรกาส 15
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รอย คาร์โรลล์ 13
เวส บราวน์ 6
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27 ( น. 22)
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
รอย คีน 16
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
พอล สโคลส์ 18 ( น. 113)
เวย์น รูนี่ย์ 8
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
แกรี่ เนวิลล์ 2
ควินตัน ฟอร์จูน 25 น. 77 จอห์น โอเชีย 22
ไรอัน กิ๊กส์ 11 น. 90 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
อลัน สมิธ 14
ผลการยิงจุดโทษ
อาร์เซนอล
ปาทริค วิเอร่า ( น. 120)
แอชลี่ย์ โคล ( น. 120)
เฟรดริค ลุงเบิร์ก ( น. 120)
โรบิน ฟาน เปอร์ซี่ ( น. 120)
โลร็อง เอตาเม่ ( น. 120)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ( น. 120)
พอล สโคลส์ (ยิงไม่ผ่าน เยนส์ เลห์มันน์)
เวย์น รูนี่ย์ ( น. 120)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ( น. 120)
รอย คีน ( น. 120)
สถิติของเกม
อาร์เซนอล ลูกยิงตรงกรอบ 1, ลูกยิงหลุดกรอบ 4, ลูกยิงโดนบล็อค 3, เตะมุม 1, ฟาวล์ 30, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 3, ใบแดง 1, การครองบอล 55.5%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลูกยิงตรงกรอบ 8, ลูกยิงหลุดกรอบ 12, ลูกยิงโดนบล็อค 8, เตะมุม 12, ฟาวล์ 23, ล้ำหน้า 6, ใบเหลือง 2, การครองบอล 44.5%
คะแนนความสามารถ
อาร์เซนอล เยนส์ เลห์มันน์ 9, โลร็อง เอตาเม่ 5, โคโล่ ตูเร่ 6, ฟิลิปเป้ เซนเดอรอส 6, แอชลี่ย์ โคล 6, ฟร็องเซส ฟาเบรกาส 6, ปาทริค วิเอร่า 6, จิลแบร์โต้ ซิลวา 6, โรแบร์ ปิแรส 5, เดนนิส เบิร์กแคมป์ 5, โฆ่เซ่ อันโตนิโอ เรเยส 5, เฟดริค ลุงเบิร์ก (สำรอง) 7, เอดู (สำรอง) 6, โรบิน ฟาน เปอร์ซี่ (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอย คาร์โรลล์ 6, เวส บราวน์ 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ 7, จอห์น โอเชีย 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, รอย คีน 8, พอล สโคลส์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, รุด ฟาน นิสเตลรอย 6, เวย์น รูนี่ย์ 9, ไรอัน กิ๊กส์ (สำรอง) 6, ควินตัน ฟอร์จูน (สำรอง) 6
Por

Related Posts